Saturday, August 8, 2009

ความแตกต่างของภูตในแต่ละขั้น

ความแตกต่างของภูตในแต่ละขั้น
ในแต่ละขั้น ประสิทธิภาพสกิลจะแรงยิ่งขึ้น เช่น P.Atk ของระดับแรก จะเพิ่มพลังโจมตี 5 ต่อสกิลเลเวล ส่วนในขั้นที่สอง จะเพิ่มเป็นพลังโจมตี 7 หน่วย ต่อสกิลเลเวล เป็นต้น
ถึงภูตระดับสูงจะยิ่งมีความสามารถสูง แต่โอกาสได้ภูตระดับตั้งแต่ 2 ขึ้นไป เป็นไปได้ยากมาก ตีมอนสเตอร์หากันทั้งวันทั้งคืน อาจไม่ได้สักใบ ในช่วงแรกอาจต้องตั้งเป้าไปใช้ภูตระดับแรกไปก่อน แล้วค่อยหาภูตตั้งแต่ระดับ 2 - 3 ขึ้นไปมาฝึกในภายหลัง
TIP
การ์ดเปล่าของภูต ที่ใช้ผนึกภูตไว้ในการ์ด ตั้งแต่ระดับ 2 ขึ้นไป มีการปรับเปลี่ยนการดรอปตามเวอร์ชั่น ถ้าจะเอาให้ได้การ์ดแน่นอน แนะนำให้ตีมอนสเตอร์ที่หน้าตาคล้ายกับภูตที่ต้องการจับ เช่น Angel ก็หาจากตัวที่เป็นนางฟ้า เป็นต้น และมอนสเตอร์เผ่าเดียวกัน ที่เลเวลสูงก็จะยิ่งดรอปการ์ดง่ายขึ้น
หลักพิจารณาเลือกภูต
1. สกิล Unity เป็นสกิลบัฟร่วมกันระหว่างตัวเรา และภูต ซึ่งไม่ซ้อนทับกับบัฟใดๆ ในเกม ซึ่งควรเลือกให้สอดคล้องกับอาชีพของผู้เล่น และตามความต้องการ
2. ประเภทที่ต้องการใช้ อย่างเช่น ถ้าต้องการตัวปะทะ เพื่อล่อมอนสเตอร์ ก็ควรเลือกตัวอึด แต่ถ้าเราเป็นอาชีพที่ Heal ภูตได้ อาจจะเลือกตัวเน้นสร้างความเสียหายแทน เป็นต้น
3. ความสามารถพิเศษของภูต อย่างความสามารถการฟื้น HP ของ Blue Pixie หรือเวทมนตร์โจมตีระยะไกลของ Red Pixie เป็นต้น

บางชนิดยิ่ง Evolution ยิ่งตัวใหญ่กว่าเดิม

การ Evolution และ Over Breeding
ทำได้กับ NPC ในแต่ละเมือง ภูตสามารถพัฒนาร่างได้อีกสองครั้ง ตอนเลเวล 50 และครั้งที่สองตอนเลเวล 100 ซึ่งจะทำให้หน้าตา, รูปในการ์ด และความแข็งแกร่งของภูตสูงมากขึ้น รวมทั้งใช้สกิลใหม่ๆ ได้ แต่ส่วนใหญ่จะไม่นิยมทำกัน เพราะเลือกที่จะทำ Over-Breeding กันมากกว่า
Over-Breeding (เรียกสั้นๆ ว่า OB) เป็นการเก็บเลเวลต่อจากช่วงที่ภูตสามารถเปลี่ยนอาชีพได้ (เช่น เลเวล 50 ก็ยังเล่นต่อไป) ซึ่งทำให้ได้ Status ที่สูงยิ่งขึ้น และ Job Point มากขึ้นจากปกติ เมื่อเก็บเลเวลจนถึงที่กำหนด จะไม่สามารถเก็บเลเวลต่อได้ จึงค่อยนำไป
Evolution กับ NPC ซึ่งจะมีสัญลักษณ์บวกหน้าชื่อภูตที่ทำ OB ด้วยสามารถทำได้สองช่วงดังนี้
- ขั้นแรก เปลี่ยนได้ตอนเลเวล 50 สามารถทำ OB ได้จนถึงเลเวล 60 (มี +10 นำหน้าชื่อภูต)
- ขั้นสอง เปลี่ยนได้ตอนเลเวล 100 สามารถทำ OB ได้จนถึงเลเวล 115 (มี +25 นำหน้าชื่อภูต)
ความแข็งแกร่ง และสกิลของภูตที่ทำ OB จะสูงกว่าแบบปกติมาก และนำไปขายต่อในช่วงหลังได้ราคาดี (ถ้า Evolution โดยไม่ทำ OB อาจขายไม่ออก) ดังนั้น แนะนำให้ทำ OB กับภูตของเราด้วย

มีบวกนำหน้าชื่อการ์ด แสดงว่าผ่าน OB มาแล้ว

โอกาสสำเร็จในการจับภูต
หลังมีสกิล Creature Taming แล้ว ทุกอาชีพจะมีโอกาสสำเร็จในการจับภูตจะตายตัว ได้แก่ ระดับ 2 = 45%, ระดับ 3 = 15% และ ระดับ 4 = 5%
การเพิ่มโอกาสสำเร็จในการจับภูต จำเป็นต้องใช้อาชีพเฉพาะอย่างสายอัญเชิญเท่านั้น ได้ Breeder (Deve), Spell Singer (Gaia) และ Sorcerer (Azura) สามารถอัพเกรดความสามารถ Creature Taming ได้อีกในภายหลัง โดยโอกาสจะเพิ่มอีก 3% ต่อระดับ สูงสุด คือ 27% ซึ่งกว่าจะถึงระดับนั้น คงเลเวลประมาณ 90 - 100 ขึ้นไป
สำหรับการจับภูตระดับ 2 มีโอกาสค่อนข้างสูง อาจจะเสี่ยงจับเองก็ได้ (แต่การ์ดเปล่าหายากมาก คงต้องวัดดวงสักนิด) แต่ตั้งแต่ระดับ 3 ขึ้นไป ถ้าอยากจับง่ายแนะนำให้หาเพื่อนที่เชื่อใจได้ไปจับให้

สรุปแนวทางเลือกภูต 2 ระดับแรก
สำหรับภูตระดับแรก เข้าใจไม่ยาก ต้องการเน้นโจมตี ก็ใช้ Pantera ส่วนต้องการป้องกัน หรือตัวล่อมอนสเตอร์ก็เลือก Tortus ส่วน Poultry ไม่ค่อยเหมาะสำหรับคนเพิ่งเริ่ม
กรณีหาภูตระดับ 2 จะพิจารณาจากสกิล Unity ตอนเลเวล 45 เป็นหลัก และสกิลดีกว่าพวกภูตขั้นแรกมาก เช่น Orc ใช้ Unity เพิ่มทั้ง P.Atk และ P.Def ได้ 63 หน่วย ในขณะที่ Pantera และ Tortus เพิ่ม P.Atk หรือ P.Def อย่างหนึ่งได้เพียง 55 เท่านั้น เป็นต้น
1. กลุ่มนักรบ พวกที่มีความทนทานต่อการโจมตีสูงอยู่แล้ว ต้องการแค่กำลังเสริมในการต่อสู้ จึงควรเลือกภูตที่สนับสนุนตัวเรา หรือการต่อสู้ กรณีเล่นเป็นสายธนูหรือหน้าไม้ ก็ควรให้ภูตไปล่อศัตรูให้
Yeti มีสกิลป้องกันสูงกว่า Orc พอสมควร แต่ถ้าต้องการแบบสมดุลกว่า ก็เลือก Orc แทนได้

1.1. เน้นป้องกัน หรือหลบหลีก : Orc (P.Atk / P.Def ), Yeti (P.Def),Wolf (Evasion)
1.2. เน้นต่อสู้ : Orc (P.Atk / P.Def), Skeleton (Atk.Spd)
1.3. ลุยคนเดียว : Blue Pixie (ต้องการ Heal)
2. กลุ่มจอมเวทย์ ขึ้นกับหลายๆ สถานการณ์ว่าต้องการเพิ่มความแรงเวทมนตร์, ความแม่น หรือตัวชน ลองเลือกดู
2.1. ตัวล่อ : ภูตที่พลังโจมตีระยะประชิดสูง แบบ Orc, Yeti, Skeleton และ Wolf เป็นต้น
2.2. เพิ่มความแรงเวทมนตร์ : Red Pixie (M.Atk)
2.3. เพิ่มความแม่นเวทมนตร์ : Siren (Acc / M.Acc)
2.4. เพิ่มอัตราฟื้น MP : Blue Pixie (MP Recovery)
2.5. เพิ่มทนทาน (โดยเฉพาะ PVP) : Yeti (P.Def)
3. กลุ่มอัญเชิญ ใช้ได้เกือบทุกตัว ซึ่งเป็นกลุ่มที่สนับสนุนภูตได้โดยตรง ไม่ว่าจะเรื่องความแข็งแกร่งจากสเตตัส, สกิลบัฟ และอื่นๆ ขึ้นกับว่าเล่นแบบไหน แนะนำให้ใช้พวกต่อสู้ระยะประชิดค่อนข้างดี แบบ Orc, Skeleton หรือ Wolf แล้วสู้ไปพร้อมกับภูต

ภูตแต่ละชนิดใช้งานไม่เหมือนกัน

ข้อจำกัดบางอย่างที่ควรรู้
1. ภูตส่วนใหญ่วิ่งไม่เร็ว ตอนเรายืนบนพื้น ภูตจะมีความเร็วจำกัดเพียง 100 ในขณะที่เราอาจเป็น 125 ขึ้นไป ทำให้บางทีจะวิ่งไล่มอนสเตอร์ที่วิ่งเข้าหาเราไม่ทัน ถ้าไม่ซื้อไอเทมบัฟจากร้าน (ที่ราคาแพง) หรือเล่นอาชีพที่มีบัฟเพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่
2. ระวังค่าความเกลียด (Threat) ถ้าโจมตีศัตรูแรงเกินไป, ใช้ Chip หรือใช้สกิลสนับสนุนบางอย่าง จะเพิ่มค่าความเกลียดต่อมอนสเตอร์ ทำให้วิ่งเข้าหาคนที่เพิ่มความเกลียด ซึ่งภูตจะวิ่งเข้ามาช่วยเราไม่ทัน (เหตุผลในข้อ 1) จึงควรให้ตัวที่ล่อสร้างความเสียหายไปในระดับหนึ่งก่อน แล้วค่อยโจมตี
3. ถ้าเราไม่สั่งให้ภูตโจมตี ภูตจะไม่ตอบโต้ศัตรูเอง
4. มอนสเตอร์ที่โจมตีก่อน มองเห็นเราได้ไกลกว่าภูต ถ้าวิ่งไปพร้อมกัน มอนสเตอร์จะโจมตีเราก่อนแน่นอน
5. ภูตใส่อาวุธและชุด ตามระดับเลเวลของภูตเช่นกัน โดยจะได้รับผลจาก Enchant, Cube และ Soul Stone ในอาวุธและชุดนั้น ดังนั้น แนะนำให้ Enchant ชุดเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งด้วย

1 comment:

  1. Tipstrr Free Tips (FREE) | 100% Verified | 95.62% verified william hill william hill m88 m88 ボンズ カジノ ボンズ カジノ 524Where to bet on football - 먹튀 프렌즈 - Legalbet

    ReplyDelete